วันเสาร์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2556

การขอเปลี่ยนใบขับขี่จาก 1 ปี เป็น 5 ปี (ขนส่ง บางขุนเทียน)

เมื่อวาน (31/05/2013) ก็ได้เดินทางไป ที่สำนักงานขนส่งเขตบางขุนเทียนมาเพื่อไปทำเรื่องเปลี่ยนชนิดใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคลจาก ชั่วคราว (1 ปี) เป็น บุคคล (5 ปี)

หลายคนอาจนึกว่าเป็นการต่ออายุ ที่จริงไม่ใช่ เค้าเรียกว่าเปลี่ยน

ก็ไปขอใบรับรองแพทย์ก่อนไปแถวบ้าน ใช้เวลาแปปๆ ตรวจสุขภาพ ความดัน เบาหวาน กับคลินิกแถวบ้าน ในราคา 60 บาท

แล้วก็ไปถึงขนส่งประมาณ 8.00 นิดๆ ก็ไปที่ชั้น 2 เอาเอกสารให้เค้าให้ครบคือ
1. สำเนาบัตรประชาชน ก็ถ่ายเอกสารมาเลย พร้อมรับรองสำเนา
2. ใบขับขี่เก่า (แบบชั่วคราว 1 ปี)
3. ใบรับรองแพทย์

ยื่นครบก็ได้ใบคิวมา 1 ใบรอเรียก ไม่เกิน 10 นาที ให้เจ้าหน้าที่ print เอกสารให้

รับเอกสารก็ไปยื่นต่อที่ชั้น 3 วางในตระกร้า แล้วก็เข้าห้องอบรม เพื่อไปรอ

สักพักเจ้าหน้าที่ก็จะมาเรียก และอธิบาย ก็รอนิดหน่อย คนเยอะพอควร เนื่องจากมีทั้งมาทำใหม่ และต่อแบบ 5 ปี จะโดนอบรมยาวด้วย

หลังจากรอในห้องได้สักพัก เจ้าหน้าที่ก็เรียกออกไปเพื่อทำการทดสอบ 4 ด่าน
1. ตาบอดสี (มีเจ้าหน้าที่ชี้สีให้เราอ่านให้ถูกจนกว่าเค้าจะพอใจ)
2. การตัดสินใจ (ก็จะเป็นที่เหยียบๆ เหมือนจะเหยียบคันเร่งตรงไฟเขียว พอแดงปุป มาเหยียบเบรก ให้เร็วกว่า 0.7 วิ ถ้าทีเดียวผ่านก็จบ)
3. ทดสอบสายตาทางลึก (มีแท่งๆสองอัน อันขวาจะอยู่กับที่ เราต้องเลื่อนอันซ้ายให้มาตรงกับขวา อันนี้ถ้าเห็นว่าพอแล้วก็หยุด ไม่งั้นอาจตกได้ ข้าพเจ้าเกือบตกแล้ว กดเพลิน)
4. ทดสอบสายตาทางกว้าง (ก็เอาจมูกไปวางบนเครื่อง แล้วมองตรง ให้บอกสีขวาและซ้ายของเรา)

การจัดการของขนส่งที่นี่ถือว่าทำได้ดีนะ ถ้าเห็นว่าแถวยาวมากเค้าก็จะมีคนมาช่วยทดสอบเพิ่มเพื่อความรวดเร็ว

จบการทดสอบก็ไปชั้นสองต่อ เพื่อให้เค้าทำเอกสาร รอแวบนึง ก็ได้บัตรคิวเพื่อไปรอถ่ายรูปละ ใครอยากไปแต่งหน้าไรก็ดูคิวที่เค้าติดไว้ ไม่นานมาก
ตอนถ่ายรูปก็เตรียมเงินไปพอดีๆ จะดีมาก 605 บาท ก็จ่ายตอนนั้นเลย

เสร็จ จบ ใช้เวลาไปประมาณ 1.30 นาที ไม่เลวๆ

[ถ้าต่ออายุ 5 ปี รู้สึกต้องไปอบรมอะไรด้วยหละ เป็นชั่วโมงเลย]


รูปที่ถ่ายก่อนกลับบ้าน

วันพุธที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2556

สวัสดีปีใหม่

สวัสดีปีใหม่ 2013

ข้าพเจ้าป่วย เลยหายจากบล็อกไปนาน

เนื่องในโอกาสปีใหม่นี้ก็ขอให้ทุกคนมีแต่ความสุข ความเจริญ ยิ่งๆขึ้นไป
สุขภาพแข็งแรง โรคภัย ไข้เจ็บ ไม่มารบกวนนะคะ

^^

วันอังคารที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2555

เมนูวันนี้ : ตอน มาม่าแห้ง รวม ตู้เย็น




ส่วนผสม
1. มาม่า
2. ผักเหลือๆในตู้เย็น [ถ้าอยากใส่]
3. เนื้อสัตว์เหลือๆ [ที่เห็นในรูปคล้ายหมูยอ]

วิธีทำอย่างง่าย [ใช้ไมโครเวฟ]
1. เอาสิ่งที่ต้องการมาเตรียมไว้ หั่น และแกะให้เรียบร้อย
2. เอาชามที่เข้าไมโครเวฟได้ใส่น้ำลงไป ปิดฝานำเข้าไมโครเวฟ สัก 3 นาที
3. เอาของที่ต้องการลวกลงไปในนั้น
4. เข้าไมโครเวฟอีกสัก 3 นาที
5. ดูว่าน่าจะสุก ก็เอาของที่ลวกเสร็จออกมาไว้ในจาน
6. ใส่มาม่าลงไปในน้ำนั่น จะเอาเข้าเวฟอีกสัก 2 นาที ก็ได้
7. ดูจนได้ที่ตักใส่จาน
8. เทเครื่องปรุง
9. คลุก
10. ทานได้

จบ


ส่วนใครจะใช้กระทะต้มน้ำเอา เพื่อลวกของก็ตามสบาย

สารอาหาร
คิดว่าครบ 5 หมู่แหละ 555

น่ากินใช่ไหมละ อิอิ

วันจันทร์ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2555

เมนูวันนี้ : ตอนเกริ่นนำ



เคยไหมที่ไม่รู้จะทานอะไร เชื่อว่าคงเคย กระเพราก็เบื่อ ข้าวผัดก็ดูธรรมดา ไก่กระเทียม ก็กินบ่อย

ตู้เย็น
ก็ไม่มีอะไรที่จะอุ่นทานได้เลย มีแต่ ข้าวเปล่าๆ ผักเหลือๆ อาจมีเนื้อสัตว์เหลือๆ อยู่บ้าง และอะไรก็ไม่รู้เต็มไปหมด

ในตู้
ก็เต็มไปด้วยของแห้งมากมายที่ซื้อมาเก็บไว้ อาจจะตั้งแต่น้ำท่วม แต่เผอิญไม่ท่วม เลยไม่ได้กิน หรือ ซื้อมาด้วยสาเหตต่างๆ เช่นเอามาใส่บาตร

แถมยังขี้เกียจออกจากบ้านไปตากแดด เดินไกลๆ ซื้อของกิน ให้ผิวเกรียม

มีอาการอยากสร้างสรรค์เมนู ใหม่ๆ อลังการๆ หรืออาจจะแปลกๆ มาลองทานดู หรือ อวดโฉม ต่อผู้ที่เคยดูแคลน ฝีมือการทำอาหาร [หลังจากได้ทำ ก็ไม่สามารถจะรับประกันได้ว่า อาการดูแคลนจะหายไปนะจะ อาจมีมากขึ้น แล้วแต่พรสวรรค์ของแต่ละคน หุุหุ]

บทความในโอกาสต่อๆ ไปนี้ จะนำทุกท่าน เข้าสู่ อาหารทำง่าย สร้างสรรค์ [หรือเปล่าไม่รู้] แต่รู้ว่าทานได้อยู่ [เพราะพิสูจน์มาแล้ว] แก่ทุกท่าน

ติดตามกันต่อไปด้วยนะจะ

วันอาทิตย์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2555

เงินๆทองๆ : ตอน A เพิ่มรายได้ - หาเงิน จากงาน

คนเราทั่วไปถ้าไม่ได้เกิดมารวยก็ต้องทำงานหาเงินไป เพื่อเลี้ยงตัวเองและครอบครัว

คนที่ได้ทำงานที่ชอบก็ดีไป คนที่ไม่ชอบก็ทนไป ถ้าทนไม่ได้ก็หาทางอื่นๆกันต่อไป บางทีเราก็ไม่สามารถที่จะชอบได้หมดทุกอย่าง แล้วแต่ว่าระดับการยอมรับของคน แต่ละคนจะมีมากแค่ไหนกัน

ซึ่งงานถ้าจะแบ่งก็น่าจะแบ่งได้ 2 ประเภทหลักๆ นั่นก็คือ
1. งานประจำ
2. งานเสริม

บางคนอาจจะมีแต่งานประจำ บางคนอาจจะมีแต่งานเสริม บางคนอาจจะทำทั้งสองอย่างเลย
[ไม่ขอพูดถึงคนที่ไม่ต้องทำงาน หรือ ต้องขอเงินคนอื่น เช่น พ่อแม่ อยู่]

ซึ่งงานทั้งสองประเภทนี้ก็มีอะไรคล้ายๆกันดังนี้

1. การที่เราจะมีงานได้นั่นเราต้องรู้ตัวเองก่อนว่าเราชอบทำอะไร เช่น ชอบวาดรูป ชอบอ่านหนังสือ และอื่นๆ [XXX ลอง List รายการสิ่งที่ชอบทำมาสัก 10 อย่าง XXX]

2 หางาน
2.1 ถ้าอยากเป็นเจ้าของธุรกิจ บริษัท หรือร้านค้า ก็ต้องมีความพร้อมอื่นๆร่วมด้วย เช่น ใจ เงินทุน และความรู้ ถึงจะทำแล้วน่าจะรุ่งเรือง [เอาไว้ดูก่อนถ้ามีอารมณ์จะเขียนอีกบทความเกี่ยวกับการมีธุรกิจของตัวเองควรทำยังไงดี]
2.2 ถ้าอยากหาประสบการณ์จากการทำงานในบริษัทเอกชนและรัฐบาล หรือ อยากทำงานเป็นพนักงานมากกว่า ก็ต้องหาตำแหน่งที่เหมาะสมกับตัวเอง

แหล่งต่างๆในการหางาน
A : คนรู้จัก ทั้งญาติ พ่อ แม่ พี่ น้อง หรือ แม้กระทั่งเพื่อน เป็นแหล่งที่ค่อนข้างดี เนื่องจากเราสามารถสอบถามสภาพแวดล้อมการทำงานในแต่ละที่ได้ว่ามีความเหมาะสมกับตัวเองไหม อาจรู้ข่าววงใน และ อาจมีคนช่วยสนับสนุนในการได้งานด้วย [ในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าพ่อแม่เส้นใหญ่แล้วให้ลูกเข้ามาทำงาน แต่หมายถึงให้แนะนำให้เข้ามาได้อย่างถูกต้องด้วยความสามารถ]
B: ตามสื่อต่างๆ เช่น หนังสือพิมพ์หน้าหางาน, เว็บไซด์หางานทั่วๆไป เช่น www.jobthai.com,
th.jobsdb.com, เว็บของบริษัทโดยตรง, ป้ายประกาศ, วิทยุ, และโทรทัศน์  แยะเยะมากมาย

การจะได้งานที่เราชอบ และ ตรงตามที่เราต้องการนี่ยากยิ่ง [ที่สำคัญอย่าหลอกตัวเองว่าชอบ]
นี่เป็น Step คร่าวๆ ที่น่าจะช่วยได้บ้าง

[XXX ลอง List รายการงานที่คิดว่าอยากทำมาสัก 10 อย่าง อาจเอาข้อมูลจากรายการสิ่งที่ชอบมาประกอบ XXX]
[XXX เรียงลำดับความชอบจากมากไปหาน้อย XXX]
[XXX หยิบ 3 อันดับแรกมา XXX]
[XXX ลองหางานดูว่ามีบริษัทไหนเปิดรับสมัครสิ่งที่เราอยากทำอยู่บ้าง XXX]
[XXX ดูความสามารถตัวเองเทียบกับคุณสมบัติที่เค้าต้องการ XXX]
[XXX ถ้าคุณสมบัติไม่ตรง ต้องตัดสินใจว่า จะฝึกฝนเพิ่มเติมไหม หรือจะเปลี่ยน XXX]
[XXX ถ้าคุณสมบัติตรง --> เริ่มหาข้อมูลบริษัทที่เสนองานมาว่ามีลักษณะการทำงานอย่างไร XXX]
[XXX ถ้าหาข้อมูลไม่ได้ก็ต้องลองดูว่าจะเสี่ยงไปไหม XXX]
[XXX ถ้าหาข้อมูลได้ก็คิดว่าชอบจริงๆไหม XXX]
[XXX ถ้าชอบก็ต้องสู้เต็มที่ ให้เค้าเลือกเราให้ได้ ทั้งจากการหาข้อมูล เตรียมตัว และฝึกฝน XXX]
(สำหรับการเขียน Resume กับ การสัมภาษณ์งานมีในบทความเดือนพฤศจิกายน นะคะ)
[XXX ถ้าได้ก็ขอให้ได้ทำงานอย่างมีความสุข XXX]
[XXX ถ้าไม่ได้ก็ต้องสู้ต่อไป หรือหาวิธีใหม่ๆมาเพื่อให้ได้ เช่น เรียนต่อ หรือหางานเล็กๆ เสริมทำไปก่อนจนประสบการณ์เยอะขึ้นก็ว่ากันไป XXX]

3. ทำงาน [ให้มีความสุข] 

xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx

แต่ละคนก็มีแนวทางการหางานต่างกันไป คนที่ได้งานแต่ไม่ชอบงานที่ได้มาก็มีถมไป คนที่ได้งานที่ชอบจริงๆก็มากมาย คนที่ไม่ได้งานก็เยอะไป

เราจะอยุ่กลุ่มไหน ขึ้นอยู่กับเราเลือกเอง หาใช่โชคชะตาไม่

ตัวข้าพเจ้าเชื่อว่า
การได้ทำงานที่ตัวเองมีความสุข งานจะออกมาดี เมื่องานออกมาดี เงินก็จะดีตาม
อย่ายึดติดกับงานที่เงินดี แต่ทำอย่างไม่มีความสุขเลยคะ

ท้ายนี้ก็ขอให้ทุกคนหางานที่ชอบกันได้นะคะ ^^

GnohZnutlll

วันเสาร์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2555

เงินๆทองๆ : ตอน ขั้นตอนการจัดการเงิน

ผู้เขียนก็เพิ่งจะทำงานมีเงินเก็บได้ไม่กี่ปี และคิดว่าการจัดการกับเงินเป็นเรื่องสำคัญต่อการบรรลุเป้าหมายบางอย่างได้

เป้าหมายของคนเราอาจแตกต่างกัน บางคนมีเป้าหมายเล็ก บางคนเป้าหมายใหญ่ [หรือบางคนอาจไม่มีเป้าหมาย] เช่น บางคนอาจตั้งเป้าหมายว่าจะหาเงินเพื่อมาซื้อมือถือให้ได้ภายใน 1 เดือน, บางคนอยากเก็บเงินเพื่อไปเที่ยวรอบโลก หรือ บางคนขอให้มีเลขในบัญชีเยอะๆไว้ก่อนเดี๋ยวอนาคตก็จะรู้เองว่าจะใช้อะไร

หาความรู้มาพอควรก็เลยมาเล่าสู่กันฟังเพื่อเป็นประโยชน์

สรุปขั้นตอนหลักๆได้ดังนี้

ก่อนอื่น เราต้องหาเป้าหมายตัวเองให้เจอ หรือ ถ้าใครไม่มีเป้าหมาย แต่แค่อยากมีเงินมากๆก็ไม่ว่ากัน



การเพิ่มรายได้
A. หาเงิน
B. เก็บออมเงิน
C. นำเงินมาทำให้งอกเงย

การลดรายจ่าย
D. การรู้ตัว
E. การควบคุมตัว
F. การแก้ไขตัว

เนื่องจากข้อมูลของแต่ละหัวข้อ A, B, C,.... มีรายละเอียดโดยเฉพาะของตัวมัน เลยขอแยกไปอีกหลายๆบทความตามหัวข้อข้างต้นนะคะ

GnohZnutlll


วันศุกร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2555

GIMP : ตอน การ Crop รูปภาพ [Crop Picture]

การ Crop รูปภาพ เช่น รูปตัวอย่างด้านบน ต้องการตัดขอบข้างๆ ให้เหลือแต่ตา สองข้าง อย่างง่ายๆ


1. เปิดรูปภาพที่ต้องการออกมา
2. เลือก Tools > Transform Tools > Crop


หรือเลือกเครื่องมือดังรูปได้




3. ลากตำแหน่ง สีทึบๆจะถูกตัดทิ้งทั้งหมด > เมื่อได้ขนาดที่ต้องการก็กด Enter


4. เสร็จ ได้ภาพดังนี้ 

GnohZnutlll

วันพฤหัสบดีที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2555

GIMP : ตอน การเซพไฟล์ออกมาเป็น Type ต่างๅ [Save File - Many Type]

เชื่อว่าหลายคนเคยประสบปัญหา พอแต่งรูปเสร็จกลับเซพไฟล์เป็น Type ต่างๆ ไม่เป็น
นี่คือวิธีที่จะช่วยทำให้ปัญหานั่นหมดไป 555 ที่จริงมันง่ายมาก เพียงแต่ไม่ใช่กดที่ Save as

1. หลังจากได้รูป ต้องการเซพเป็นไฟล์ประเภทต่างๆ
2. เลือก File > Export...


3. จะมีกล่องเด้งขึ้นมา ด้านล่างๆจะมีเขียน Select File Type ก็กดไป คราวนี้ต้องการไฟล์ประเภทไหนก็เลือก แล้วก็กด Export


4. แต่ละชนิดของรูปก็จะมีกล่องอื่นๆเด้งขึ้นมาเพิ่มเติมเพื่อถามความต้องการอื่นๆไป ก็แล้วแต่จะเลือกคะ
5. จบแล้ว

ง่ายใช่ไหมละคะ
^^

GnohZnutlll

วันพุธที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2555

GIMP : ตอน การแก้ไขขนาดรูป [Re-Size]

การแก้ขนาดรูป

1. เปิดโปรแกรม GIMP ขึ้นมา
2. เลือก File > Open


3. เลือกภาพที่จะแก้ไขขนาด แล้วกด Open








 4. เลือก Image > Scale Image ...


5. ปรับแต่งข้อมูลตามต้องการ เช่น ขนาดรูป [Image Size] แล้วกด Scale


ถ้าต้องการให้ขนาดมีสัดส่วนกว้างต่อยาวเหมือนเดิมให้ กดรูปโซ่ เป็นดังภาพ ถ้าต้องการปรับสัดส่วนเองหมดก็กดที่โซ่อีกที ให้เหมือนเป็นโซ่แตกๆ


GnohZnutlll